ทําปากบาง หรือปากกระจับเป็นการศัลยกรรมอีกหนึ่งรูปแบบที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง

1 sec read

การทำปากบาง

การทำปากบางหรือปากกระจับ เป็นการศัลยกรรมอีกหนึ่งรูปแบบที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และการทำปากเป็นการผ่าตัดที่คุณจะต้องคิดให้มาก ศึกษาข้อมูลให้ดี และเลือกคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ เพราะการทำศัลยกรรมปากเป็นการตัดแต่งเนื้อปากให้ได้รูปทรงที่ดูสวยงาม ได้รูปทรงที่เราต้องการ แต่หากทำพลาดขึ้นมา หรือหมอที่ทำให้ไม่มีความเชี่ยวชาญก็ค่อนข้างที่จะแก้ไขได้ยากเพราะเนื้อที่ตัดออกไปแล้วจะให้กลับมาเต็มดังเดิมเหมือนก่อนทำคงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นคุณหมอจึงอยากให้ศึกษาข้อมูลเรื่องนี้จากหลากหลายแหล่งจนมั่นใจว่า คลินิกที่เราเลือกปลอดภัยและได้มาตรฐานเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดนั่นเอง

รูปทรงปากที่คนส่วนใหญ่นิยมทำมีแบบไหนบ้าง

  1. ปากกระจับแบบธรรมดา ส่วนใหญ่ก็จะเหมาะกับคนไข้ที่มีภาวะปากหนา ไม่ได้รูปทรง
  2. ปากปีกนก เหมาะสำหรับคนไข้ที่มีรูปปากค่อนข้างบางเป็นทรงอยู่แล้ว แต่ต้องการความสวยงามมากขึ้น ปรับปากให้ดูเซ็กซี่มากขึ้น

ปากที่ไม่แนะนำให้ทำศัลยกรรมปาก

  1. ผู้ที่มีปัญหาด้านโครงสร้างฟัน เช่น ฟันห่าง ฟันยื่น ฟันไม่สบกับสนิท หรือภาวะฟันล่างครอบฟันบน ซึ่งหมอแนะนำให้พบทันตแพทย์เพื่อประเมินก่อน
  2. กรณีคนที่จัดฟันอยู่ หากฟันยังไม่เข้าที่ ฟันห่างหรือโครงฟันยังยื่นอยู่ หมอจะยังไม่ทำศัลยกรรมปากให้จนกว่าฟันจะเข้าที่ โดยหากฟันเข้าแล้วในขณะใส่เหล็กดัดหรือ Retainer ก็สามารถทำได้
  3. ผู้ที่มีปัญหายิ้มเห็นเหงือกมาก หมายถึงยิ้มในท่าปกติริมฝีปากก็ร่นขึ้นเหนือขอบฟันมาก ซึ่งกรณีเช่นนี้หมอจะแนะนำให้พบและปรึกษาแพทย์ด้านทันตกรรมยิ้มเห็นเหงือก ซึ่งหมอแนะนำแก้ปัญหายิ้มเหงือกก่อนให้เสร็จเรียบร้อยประมาณ 1-2 เดือน จึงค่อยมาผ่าตัดริมฝีปาก
  4. ผู้ที่มีริมฝีปากบางมาก เพราะวิธีการทำปากให้เป็นรูปทรง คุณหมอต้องตัดเนื้อริมฝีปากออกบางส่วน แล้วเย็บตกแต่ง ซึ่งหากริมฝีปากบางมากแล้วก็ไม่สามารถทำให้เป็นรูปทรงได้
  5. ผู้ที่มีริมฝีปากคว่ำมากหรือมุมปากตกมาก จนไม่สามารถแก้ไขได้โดยการผ่าตัดหรือตกแต่ง
  6. ผู้ที่มีริมฝีปาก 2 ข้าง ไม่สมมาตรกันเมื่อวัดจากจุดกึ่งกลางปาก หรือในผู้ที่มีปัญหายิ้มไม่เท่ากัน 2 ข้าง ซึ่งอาจทำให้รูปทรงผิดรูปไปได้
  7. ผู้ที่มีปัญหาแผลเป็นนูนหรือคีรอยด์

ก่อนการศัลยกรรมปากจะต้องเตรียมตัวก่อนทำอย่างไร

1.งดยาแก้ปวดกลุ่ม Aspirin 7 – 10 วันก่อนผ่าตัด

2.สมุนไพรบางชนิด เช่น อีฟนิ่งพริมโรส ยาวิตามินอีปริมาณสูง ๆ อาหารที่มีส่วนผสมของผงชูรสกระเทียม หัวหอม ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง อาจทำให้เลือดออกมากผิดปกติหรือมีปัญหาระหว่างผ่าตัด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพราะอาจต้องหยุดรับประทานสมุนไพรก่อนเข้ารับการผ่าตัดประมาณ 3 – 5 วัน

3.เตรียมหยุดงานประมาณ 2-3 วัน

4.ทานอาหารให้อิ่มก่อนผ่าตัด

5.ควรแปรงฟันก่อนมาผ่าตัด เนื่องจากหลังผ่าตัดอาจปวดแผล ทำให้แปรงฟันไม่สะดวก

6.ควรพาเพื่อนมาด้วยในวันผ่าตัด

7.ควรแจ้งให้แพทย์ทราบถึงโรคประจำตัวของคุณ เช่น เบาหวาน,โรคหัวใจ และยาที่แพ้ เช่น เพนนิซิลิน,ซัลฟา ฯลฯ

หลังการผ่าตัดศัลยกรรมปากต้องดูแลตัวเองอย่างไร

  • งดอาหารแสลง
  • หลังการผ่าตัดศัลยกรรมปากนั้น หลายท่านอาจเป็นกังวนเรื่องการดูแลรักษาแผล หนึ่งในนั้นคือการงดทานของแสลง แล้วของแสลงที่ว่ามีอะไรบ้าง
  • อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ เช่น ส้มตำปูปลาร้า ลาบ ก้อย ฯ เนื่องจากอาหารประเภทนี้อาจจะไม่สะอาดและทำให้เกิดแผลสกปรกได้จึงควรงดทานอาหารหมักดอง อาหารประเภทนี้เป็นการถนอมอาหารอาจมีความไม่สะอาด อาจทำให้เกิดการติดเชื้อสู่แผลผ่าตัดได้อาหารที่เสี่ยงต่อการเกิดการแพ้ เช่น อาหารทะเลต่าง ๆ กุ้ง หอย ปู อาจเกิดตุ่มผื่นคันสุดท้ายก็จะส่งผลเสียต่อแผลผ่าตัดอาหารเสริมบางชนิด เช่น กลูต้่า ยาลดน้ำหนักแอลกอฮอล์ เหล้า เบียร์ ไวน์ เพราะจะทำให้เกิดการอักเสบส่งผลให้แผลหายช้างดการสูบบุหรี่
  • การรักษารอยแผลให้หายไว คือ การกินอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนให้เพียงพอ ต่อร่างกายดื่มน้ำเยอะ ๆ พักผ่อนให้เพียงพอ ทำความสะอาดแผลหลังทานอาหารเสร็จทุกครั้งค่ะ และต้องไม่ลืมที่จะทำตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด เพียงเท่านี้ร่างกายก็จะสามารถกลับคืนสู่สภาพเดิมได้โดยเร็ว

อุปกรณ์และสิ่งของที่ต้องมี เพื่อใช้ดูแลรักษาหลังการผ่าตัด

1.ยาทาและยากิน คุณหมอจะให้มาหลังการผ่าตัด และหลังการตัดไหม

2.เจ็ลประคบร้อน-เย็น สามารถทำที่ประคบร้อนได้ด้วยตนเอง โดยการใช้น้ำอุ่นกรอกใส่ขวดพลาสติกที่ทนความร้อนปิดฝา แล้วนำไปประคบบริเวณขอบรอบริมฝีปาก เมื่อความร้อนลดลงก็สามารถกรอกน้ำอุ่นเติมลงไปได้

3.คัทเติ้ลบัต,สำลีแผ่น,น้ำเกลือล้างแผล การเช็ดทำความสะอาดแผล ควรทำทุกครั้งหลังการทานอาหาร ตอนเช้า และ ก่อนเข้านอนโดยการใช้คัทเติ้ลบัต คอยเขี่ย เศษอาหารเล็ก ๆ ที่อาจติดตามไหมที่เย็บแผลไว้ และใช้สำลีแผ่นชุบน้ำเกลือเช็ดให้ทั่วรอบ ๆ แผล และบริเวณที่แผลแห้งแล้ว จากนั้นตามด้วยการใช้น้ำเกลือบ้วนปากให้สะอาด (การใช้นำเกลือแทนน้ำประปาจะช่วยลดโอกาสการติดเชื้อ)

4.ลิปบาล์มบำรุงริมฝีปาก,ยาลดรอยแผลเป็น,ลิปฆ่าเชื้อ และลิปเปลี่ยนสีปาก การดูแลริมฝีปากให้ชุ่มชื่นตลอดเวลาคือสิ่งที่จำเป็นมากในการทำศัลยกรรมปากบาง หากปล่อยให้ปากแห้งจะทำให้แผลตึง และเกิดอาการเจ็บ อาจมีเลือดไหลออกมาตามรอยปริของแผลแม้แผลจะแห้งแล้วก็ตาม

สำหรับใครที่ต้องการทำปากบาง ปากกระจับ สามารถเข้ามาปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวของทางคลินิกของเราก่อนได้เลย ทางเรามีทีมแพทย์ที่คอยให้คำปรึกษาให้กับคุณฟรีแบบไม่มีค่าใช้จ่าย ที่สำคัญยังมีเครื่องมือทางการแพทย์ที่สะอาดพร้อมให้บริการคุณอย่างเต็มที่ เข้ามาปรึกษาก่อนการทำกับเราได้เลย แล้วคุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน