ปัจจัยที่ทำให้เกิดเส้นเลือดขอดมีอะไรบ้างและทำไมต้องทำการผ่าตัดเส้นเลือดขอด

1 sec read

ปัจจัยที่ทำให้เกิดเส้นเลือดขอด

หลายคนมักจะเข้าใจว่าอาการของเส้นเลือดขอดนั้นไม่ใช่ปัญหาใหญ่หรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทั้งที่จริง ๆ แล้ว การปล่อยให้มีอาการเรื้อรังไปนาน ๆ จนเข้าสู่ระยะรุนแรง ซึ่งปัญหาเส้นเลือดขอดที่ใครหลายคนคิดว่าเป็นเรื่องเล็กนี่แหละที่จะนำไปสู่ความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนที่อาจถึงแก่ชีวิตได้ หากเรารักษาเส้นเลือดขอดตั้งแต่ยังมีอาการน้อย ๆ นั้นจะมีทางเลือกอยู่หลายวิธี ซึ่งก็จะมีหลายคนที่มักจะปล่อยอาการเส้นเลือดขอดไว้จนถึงขั้นรุนแรงจนอาจหมดทางเลือกและจะต้องจบลงด้วยการผ่าตัดเส้นเลือดขอดที่ท่านจะต้องเลือกสถานพยาบาลที่มีคุณภาพได้มาตรฐานได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ถึงจะมั่นใจได้ว่าท่านได้รับความปลอดภัยจากการผ่าตัดนี้แน่นอน

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เส้นเลือดขอดมีอะไรบ้าง

  1. เกิดจากทำงานโดยต้องยืน เดิน นาน ๆ เช่น พนักงานขายสินค้า พนักงานเก็บค่าโดยสาร
  2. เกิดจากกรรมพันธุ์ พ่อแม่มีหลอดเลือดขอด ลูกก็มีโอกาสเป็นด้วย
  3. เกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น จะเป็นหลอดเลือดขอดเพิ่มขึ้นเนื่องจากความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของลิ้นหลอดเลือดลดน้อยลง
  4. เกิดจากฮอร์โมนเพศ ซึ่งเพศหญิงมีโอกาสเป็นมากกว่าเพศชายเนื่องจากผลของฮอร์โมนเพศหญิงโดยตรง
  5. เกิดจากการมีน้ำหนักมากเกินไป คนที่มีน้ำหนักมากเกินเลือดจะหมุนเวียนได้ไม่สะดวก จะเกิดการคั่งค้างของเลือดบริเวณขามากขึ้น จึงทำให้เกิดหลอดเลือดขอดได้มาก
  6. เกิดจากการกระทบกระแทกหรือกดทับเช่น ไขว่ห้าง เนื่องจากเลือดเดินไม่สะดวก
  7. เกิดจากการใส่รองเท้าส้นสูง ซึ่งจะทำให้เลือดหมุนเวียนได้ไม่ดี

การผ่าตัดเส้นเลือดขอดคืออะไร

สำหรับการผ่าตัดเส้นเลือดขอดนั้นถือได้ว่าเป็นการรักษาเส้นเลือดขอดหรือหลอดเลือดขอด ซึ่งเป็นความผิดปกติของหลอดเลือดผ่าตัดเส้นเลือดขอดดำใต้ผิวหนังที่บิดนูนและขยายตัว ส่วนใหญ่จะพบมากบริเวณขา เส้นเลือดขอดมีแนวโน้มที่จะถ่ายทอดในครอบครัวและมีอาการแย่ลงจากการตั้งครรภ์และการยืนและเดินเป็นเวลานาน ๆ ซึ่งหลอดเลือดดำที่ขามีลิ้นเปิดปิดทางเดียวจำนวนมาก ที่ช่วยให้กระแสเลือดที่ไหลไปด้านบนให้ไหลกลับสู่หัวใจได้ หากลิ้นเปิดปิดเหล่านั้นไม่สามารถทำงานได้อย่างเหมาะสม เลือดจะไหลเวียนผิดทิศทาง ทำให้หลอดเลือดโปร่งและเกิดเส้นเลือดขอดได้

ทำไมต้องผ่าตัดเส้นเลือดขอด

สำหรับโรคเส้นเลือดขอดนั้นเป็นโรคที่หลายคนมักจะมองข้าม เพราะคิดว่าไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อการดำรงชีวิต ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว หากเราปล่อยให้เส้นเลือดขอดอยู่กับเราไปนาน ๆ คุณอาจจะต้องทุกข์ทรมานกับอาการปวดจนถึงขั้นไม่สามารถที่จะยืนหรือเดินได้ หรือในบางรายเป็นมากจนถึงขั้นเส้นเลือดแตก การรักษาหลอดเลือดขอด ขึ้นอยู่กับขนาดของเส้นเลือดขอด

และการรักษาผู้ป่วยเส้นเลือดขอด โดยทำการผ่าตัดเอาเส้นเลือดที่ขอดออกไปเพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำอีก เหมาะสำหรับการรักษาเส้นเลือดขอดที่มีขนาดใหญ่และมีขนาดยาวมาก ๆ และไม่สามารถรักษาได้ด้วยการฉีดยาเข้าเส้นเลือดดำที่ขอดได้

เตรียมตัวอย่างไรเมื่อต้องเข้ารับการผ่าตัดเส้นเลือดขอด

สำหรับการผ่าตัดเส้นเลือดขอด ในผู้ที่มีเส้นเลือดขอดขนาดใหญ่แพทย์จะต้องทำการประเมินความพร้อมของร่างกายก่อนที่จะนัดมาผ่าตัด ผู้ป่วยต้องงดน้ำและอาหาร 6 – 8 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งการผ่าตัดจะใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง หลังทำการผ่าตัดเส้นเลือดขอดแพทย์จะพันขาด้วย Elastic Bandage จากนั้นแพทย์จะแนะนำให้ใส่ถุงน่องชนิดพิเศษต่อ และแพทย์จะนัดติดตามอาการ 1 – 2 สัปดาห์ หลังทำการผ่าตัด

ผ่าตัดเส้นเลือดขอดมีขั้นตอนอย่างไร

ก่อนที่ผู้เข้ารับบริการผ่าตัดเส้นเลือดขอด วิสัญญีแพทย์จะให้ยาระงับความรู้สึก หรือที่เรียกว่ายาสลบกับคุณก่อน เมื่อยาออกฤทธิ์แล้ว ศัลยแพทย์อาจตัดหลอดเลือดดำชั้นตื้นใต้ผิวหนังที่ผิดปกติออกจากหลอดเลือดชั้นลึกในบริเวณขาผ่านทางรอยผ่าที่ขาหนีบหรือหัวเข่าด้านหลัง

แพทย์อาจทำรอยผ่าขนาดเล็กจำนวนมากไปตามแนวเส้นเลือดขอดและกำจัดออก หากเป็นเส้นเลือดขอดขนาดใหญ่ อาจต้องดึงออกโดยใช้เครื่องมือพิเศษ โดยทั่วไป การผ่าตัดเส้นเลือดขอด จะใช้เวลาประมาณ 20 นาทีถึง 3 ชั่วโมง

รายละเอียดในการผ่าตัดเส้นเลือดขอดนั้นอาจแตกต่างไปในแล้วแต่ละกรณี หากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม แนะนำให้ท่านปรึกษาแพทย์

การดูแลตัวเองอย่างไรหลังผ่าตัดเส้นเลือดขอด

  • งดยกของหนัก และการยืนนาน ๆ 3-7 วัน และใส่ผ้ายืดหรือซัพพอร์ต 1-3 สัปดาห์หลังการผ่าตัด
  • หลังการผ่าตัด ควรออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ เพื่อให้ขาได้เคลื่อนไหวและทำให้เลือดไหลเวียนสะดวก
  • ผู้เข้ารับบริการจะต้องควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม
  • ผู้เข้ารับบริการจะต้องพยายามเปลี่ยนท่าทางอิริยาบถบ่อย ๆ ทุกครึ่งชั่วโมง ไม่ควรนั่ง ยืน เดินนานๆ ติดต่อกัน
  • ในช่วงระหว่างวันควรหาเวลาพักขาโดยยกขาพาดให้สูง และตอนกลางคืนควรนอนยกขาสูงกว่าระดับหัวใจ