หลายคนอาจมีคำถามว่ากะคืออะไร กระก็คือจุดผิวเรียบที่เกิดบนผิวหนังที่มีขนาดเล็ก ๆ มีสีน้ำตาลเข้มกว่าผิวหนังโดยรอบ ซึ่งกระนี้จะพบได้บริเวณผิวหนังที่สัมผัสแสงแดดโดยเฉพาะที่ใบหน้า แต่ก็ไม่มีการศึกษาถึงอัตราการเกิดขึ้นอย่างชัดเจนเพราะกระนี้จะพบได้แตกต่างกันในแต่ละเชื้อชาติ ซึ่งส่วนมากจะพบได้กับผู้ที่มีผิวขาวและผมสีอ่อน ซึ่งกระจะมีหลายประเภทมีทั้งกระตื้น กระลึก กระแดด และวันนี้เราจะพาท่านไปทำความรู้จักกับประเภทของกระ และวิธีการรักษาด้วยการทำเลเซอร์กระ ดูดไขมัน มีขั้นตอนในการรักษาอย่างไร ต้องเตรียมตัวอย่างไรก่อนที่จะทำการรักษา ดังนี้
ประเภทของกระมีอะไรบ้าง
- กระตื้น ลักษณะของกระจะเป็นจุดสีน้ำตาลขนาดเล็กกระจายไปทั่วบริเวณโหนกแก้ม จมูก ใบหน้า หรือบริเวณไหล่ต้นแขน (ในคนฝรั่งผิวขาว) หรือบริเวณที่ถูกแสงแดดมาก ๆ เกิดได้ตั้งแต่อายุน้อย ๆ เชื่อว่าพันธุกรรมมีผลทำให้เกิดกระ
- กระลึก กระประเภทนี้จะพบได้กับผู้หญิงเอเชียที่มีอายุตั้งแต่ 20 – 30 ปีขึ้นไปจะเห็นเป็นจุดสีน้ำตาลอ่อนบริเวณโหนกแก้มทั้ง 2 ข้าง
- กระแดด กระประเภทนี้มักเกิดขึ้นได้ในวัยกลางคนหรือคนสูงอายุ ลักษณะจะเป็นจุดสีน้ำตาลบริเวณใบหน้าหรือบริเวณที่โดนแสงแดดบ่อย ๆ ซึ่งกระประเภทนี้สามารถใช้เลเซอร์รักษาได้
- กระเนื้อ ลักษณะเป็นเม็ดสีน้ำตาล เริ่มจากเม็ดเล็กๆ แล้วค่อยๆ โตขึ้นเรื่อยๆ อย่างช้าๆ จนเห็นชัดเจนขึ้น มักเป็นตามใบหน้า, คอ, ลำตัว หรือรักแร้ การรักษากระเนื้อในปัจจุบันสามารถทำได้ง่ายโดยการใช้แสงเลเซอร์ ผิวจะกลับมาเกลี้ยงเกลาและโอกาสเกิดรอยแผลเป็นหลังทำต่ำมาก
รักษากระด้วยการทำเลเซอร์ต้องทำอย่างไร
จะเห็นได้ว่าแสงเลเซอร์สามารถรักษากระได้ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นการรักษากระแดด รักษากระเนื้อ รักษากระตื้น โดยแพทย์ผิวหนังจะเป็นผู้เลือกชนิดของเลเซอร์ให้เหมาะสมกับชนิดของกระที่เป็น ซึ่งเลเซอร์ที่ใช้รักษากระก็อย่างเช่น Nd-YAG Laser, Picoway, คาร์บอนไดออกไซด์เลเซอร์ (CO2 laser) เป็นต้น สำหรับขั้นตอนในการยิงเลเซอร์มีดังนี้
- ล้างหน้าให้สะอาด แล้วเช็ดให้แห้ง เพื่อเตรียมผิวหน้าให้พร้อมสำหรับการยิงเลเซอร์
- จากนั้นจะทายาชาบริเวณผิวหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 45 นาที เพื่อไม่ให้รู้สึกเจ็บปวดขณะทำ
- แพทย์จะทำการยิงเลเซอร์ไปที่ตำแหน่งของกระ
กระสามารถรักษาให้หายขาดได้หรือไม่
การรักษากระให้หายขาดวิธีที่ได้ผลจนกระหายและปลอดภัยที่สุดในตอนนี้คือ การใช้เลเซอร์ที่มีความจำเพาะเจาะจง คือทำลายแต่เซลล์เม็ดสี แต่ไม่ทำลายเซลล์ปกติ จึงไม่เกิดแผลเป็นหลังการรักษา
สำหรับกระตื้น เลเซอร์รักษาได้ผลดี คือเลเซอร์ชนิดแสงทับทิม (Ruby laser) Nd : Yag laser Alexandrite laser หลังยิงเลเซอร์จะมีสะเก็ดบาง ๆ 7-10 วัน เมื่อสะเก็ดหลุดออก ผิวก็เป็นปกติ โดยไม่เหลือรอยแผลเป็นใด ๆ ไว้เลย
ในส่วนของกระลึกก็ใช้เลเซอร์ชนิดเดียวกันกับกระตื้น แต่อาจต้องทำซ้ำ 2-3 ครั้งจึงจะหายขาด นอกจากกระจะหายขาดแล้ว เลเซอร์บางชนิด คือเลเซอร์แสงทับทิมยังมีคุณสมบัติทำให้ผิวบริเวณที่รักษากระ ดูอ่อนกว่าวัยอีกด้วย โดยสรุปการรักษากระลึกด้วยเลเซอร์อาจจะมีข้อแตกต่างจากการรักษากระตื้นบ้างดังนี้
- การรักษากระลึกอาจต้องทำหลายครั้ง และใช้เวลานานถึง 3-6 เดือน จึงจะจบการรักษา บางรายอาจนานกว่านั้น
- หลังยิงเลเซอร์กระลึกครั้งแรก บางรายกระลึกจะเริ่มดีขึ้นเลย แต่บางรายแทนที่จะขาวขึ้นอาจกลับดำขึ้นกว่าเดิม การยิงซ้ำครั้งที่ 2 ควรทำห่างจากครั้งแรก 4-6 อาทิตย์พบว่าหลังยิงครั้งที่ 2 (ถ้ากระลึกมากๆอาจทำ 3-4 ครั้ง) เม็ดสีจะถูกทำลายจนหมด และผิวหนังที่เคยยิงบริเวณเลเซอร์จะค่อยๆกลับมาเป็นผิวปกติ
ถึงแม้ว่าจะใช้เวลารักษากระลึกค่อนข้างยาวนานแต่ผลการรักษาค่อนข้างคุ้มค่า เพราะผิวสวยจะอยู่คู่กับเราตลอดชีวิตไม่ต้องมาคอยทายาอีกต่อไปจึงจะหายขาด การรักษากระลึกใช้เวลานานเพราะการยิงเลเซอร์แต่ละครั้งควรเว้นห่างจากครั้งแรก 4-6 อาทิตย์ เรียกว่าต้องใช้ความอดทนและทนทุกข์อยู่พักใหญ่ทีเดียว คนที่ขี้กังวลอาจไม่เหมาะที่จะใช้วิธีนี้ ก่อนทำควรปรึกษาแพทย์ ขอคำแนะนำให้กระจ่างก่อน
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการรักษากระด้วยเลเซอร์
- แนะนำให้ทำการอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดก่อน ไม่ต้องทาครีมบำรุง เซรั่มและน้ำหอมใด ๆ ก่อนเข้ารับการรักษา ถ้าเกิดว่ามีรอยกระที่บริเวณหนังศีรษะ จำเป็นต้องมีการโกนผมบริเวณนั้นออกไปด้วย ตรงจุดนี้หลาย ๆ ที่จัดการโกนให้เราได้อยู่แล้ว
- พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวหนังในบริเวณที่จะเข้ารับการรักษาโดนแสงแดดมากนัก และไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้ผิวสีแทนก่อนอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพราะอาจทำให้ประสิทธิภาพในการรักษากระด้วยเลเซอร์ลดลงเนื่องจากมีสารตกค้างอยู่ที่ผิวหนังบริเวณนั้น
- หมั่นทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน เพื่อไม่ให้แสงแดดทำร้ายผิวมากไปกว่านี้ ซึ่งเมื่อโดนแสงแดดมาก ๆ จะทำให้รอยกระมีสีเข้มขึ้น ระยะเวลาในการรักษาก็จะนานมากขึ้นไปอีก แนะนำให้ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 เป็นอย่างต่ำ
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดความไวต่อแสง เช่น Hydroxy acids, benzoyl peroxide, retinol เป็นต้น เพราะอาจทำให้ผิวหนังมีความบอบบางและเกิดอาการอักเสบระหว่างการยิงเลเซอร์ได้ แนะนำให้หยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเหล่านี้ก่อนอย่างน้อย 3 วัน ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นสูตรอ่อนโยนต่อผิวหรือสำหรับผิวแพ้ง่ายแทน
- ปฏิบัติตามคู่มือก่อนเข้ารับการรักษาเลเซอร์จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับประวัติการแพ้ยา หรือถ้าหากว่าช่วงนี้มีการทานยารักษาต่าง ๆ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ จากการทำเลเซอร์