e matrix เป็นหนึ่งในนวัตกรรมแห่งอนาคตที่จะทำให้เกิดผิวใหม่ภายใต้แนวคิด Semi-Ablative Rejuvenation ด้วยระบบ Fractional ที่ล้ำสมัย โดยการใช้พลังฟื้นฟูแห่งเลเซอร์ขั้นสูง กระจาย พลังงานล้ำลึกได้ถึงบริเวณที่ต้องการรักษาได้อย่างแม่นยำ เครื่องนี้จะไปกระตุ้นสร้างเซลล์ผิวใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้เข้ารับบริการจะเห็นถึงผลการรักษาที่น่าพอใจได้ตั้งแต่ครั้งแรก พลังงานที่เกิดขึ้นกับเนื้อเยื่อโดยรอบจะช่วยในกระบวนการซ่อมแซม เซลล์ผิว และเร่งกระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่ให้เร็วขึ้น เมื่อใช้เครื่องนี้จะได้รับความปลอดภัยกับทุกสภาพผิว โดยไม่สร้างบาดแผลและความบอบช้ำให้แก่ผิวของผู้เข้ารับบริการ
หลักการทำงานของเครื่อง e matrix เป็นอย่างไร
การทำงานของเครื่อง ematrix นี้จะเป็นการปล่อยพลังงานแบบคลื่นวิทยุความถี่สูง (RF) ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนเมื่อลงไปในผิวหนัง ทำให้คอลลาเจน (Collagen) ในผิวชั้นหนังแท้มีการหดตัว และพลังงานของ e-Matrix มากพอที่จะกระตุ้นให้เกิดการสร้าง Collagen ใหม่
การให้พลังงานแบบ Fractional Radiofrequency หรือคลื่นวิทยุที่ลงแบบแบ่งส่วน พลังงานสามารถลงได้ลึกและเป็นวงกว้าง เหมือนรูปหยดน้ำ หรือ ปิรามิด จากขั้วพลังงานที่แผ่เข้าหากัน โดยการรักษาด้วยวิธีนี้จะทำให้เกิดแผลน้อยบริเวณพื้นผิวที่ปล่อยพลังงาน (ยอดปิรามิด) เมื่อเทียบกับพลังงานที่ได้รับ ถือว่า e-Matrix ทำให้เกิดแผลที่น้อยกว่าเลเซอร์ (Laser) แต่ให้พลังงานสู่ผิวมากกว่า
ใครเหมาะกับการรักษาด้วยเครื่อง e matrix
เหมาะกับผู้เข้ารับบริการที่มีปัญหาเรื่องหลุมสิว โดยจะใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงที่เรียกว่า RF ในการกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ในผิวชั้นล่างเพื่อปิดให้ช่องโหว่ใต้ผิวหนังลดน้อยลง และจะไปทำลายพังผืดให้หลุมสิวตื้นขึ้น นอกจากนี้ รูขุมขนเล็กลง ได้ความกระชับของผิวหน้าจากการสร้างคอลลาเจนใหม่ได้ใต้ชั้นผิวด้วย
e matrix สามารถรักษาอะไรได้บ้าง
- รักษาริ้วรอยลึก ริ้วรอยแห่งวัย
- รักษาหลุมสิวได้ดี และเห็นผลได้อย่างชัดเจน
- ผิวขาว เนียนใส กระชับรูขุมขน
- ปรับสีผิวสม่ำเสมอ ลดจุดด่างดำคล้ำเสีย
เครื่อง e matrix ทำไมถึงมีหลายโปรแกรมและแต่ละโปรแกรมต่างกันอย่างไร
เนื่องจากปัญหาของผิวในแต่ละคนจะมีความรุนแรงแตกต่างกัน จึงทำให้เครื่องนี้มีโปรแกรมให้เลือกถึง 3 โปรแกรม เพื่อให้เหมาะสมกับปัญหาของผิวที่มีความแตกต่างกัน ดังนี้
- Program A เหมาะสำหรับผู้เข้ารับบริการที่มีริ้วรอยตื้น ๆ ทำให้หน้ากระจ่างใส ผิวเรียบเนียนขึ้น รูขุมขนกระชับ จะเกิดการทำลายผิวหนังด้านบนและลอกออกเพียงเล็กน้อย อาจไม่เห็นเป็นสะเก็ดเลย
- Program B เหมาะสำหรับผู้เข้ารับบริการที่มีริ้วรอยปานกลาง หลุมสิว รูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน สีผิวไม่สม่ำเสมอ จะเกิดการทำลายผิวหนังด้านบนและลอกออกบางส่วน อาจเห็นเป็นสะเก็ดบาง ๆ ได้ในบางจุด
- Program C เหมาะสำหรับผู้เข้ารับบริการที่มีริ้วรอย หลุมสิวลึก จะเกิดการทำลายผิวหนังด้านบนและลอกออก อาจเห็นเป็นสะเก็ดได้บางจุด พลังงาน RF จะสามารถลงไปได้ลึกถึงชั้นหนังแท้ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน
หลังการรักษาด้วยเครื่อง e matrix ควรปฎิบัติตัวอย่างไร
- วันแรกของการเข้ารับการรักษาผู้เข้ารับบริการควรล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า เนื่องจากผิวยังบอบบางอยู่
- หลังทำควรทาครีมบำรุงและครีมกันแดด
- ควรหลีกเลี่ยงความร้อน และงดออกกำลังกายอย่างหนัก
- รอยแดงที่ทำจะจางหายได้ใน 2 – 3 วัน
- หลังจากการรักษา จะเกิดสะเก็ดขนาดเล็ก ๆ ซึ่งจะหลุดไปเองใน 5-7 วัน และไม่ควรแกะ หรือเกา ควรปล่อยให้หลุดไปเองตามธรรมชาติ สามารถทาแป้งทับได้ตามปกติ
ผลลัพธ์ที่ได้จากการรักษาด้วยเครื่อง e matrix เป็นอย่างไร
- ผิวเนียนใส รูขุมขนกระชับ
- สีผิวสม่ำเสมอ จุดด่างดำลดลง
- ลดเลือนริ้วรอย
- ผิวตึงกระชับ
- หลุมสิวตื้นขึ้น ผิวหน้าเรียบเนียนอย่างเห็นได้ชัด
- แผลเป็นจากอุบัติเหตุ, แผลผ่าตัดดีขึ้น เรียบเนียนขึ้น
ข้อควรรู้เกี่ยวกับ e matrix มีอะไรบ้าง
- จำนวนครั้งที่ทำ และระยะห่างของแต่ละครั้ง
ควรรักษาอย่างน้อย 3 ครั้ง ซึ่งโดยทั่วไปแนะนำการทำ e matrix ที่ 3-5 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างประมาณ 4-6 สัปดาห์ต่อครั้งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ ส่วนใหญ่มักเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่รับการรักษา
- ความคงทน
ความคงทนขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวของแต่ละคน แต่แนะนำให้ทำกระตุ้นทุก 6-12 เดือน
- ความรู้สึกระหว่างทำ
อาจมีเจ็บเล็กน้อยเหมือนการยิงเลเซอร์ทั่วไป แต่คลินิกส่วนใหญ่มีการทายาชาให้ก่อนทำ และหลังทำอาจรู้สึกร้อนที่ผิวเล็กน้อยแล้วอาการดีขึ้นภายใน 2-3 ชั่วโมง
- ผลข้างเคียง
อาจเกิดอาการบวม แดง หรือตุ่มน้ำหรือสะเก็ดที่ผิวหลังทำ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีที่ผิดปกติ แต่ก็เกิดขึ้นได้น้อยมาก เพราะ e matrix ได้รับการรับรองจาก FDA หรือองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) ว่าปลอดภัย และเห็นผลลัพธ์ได้จริง
