อีเมล์

[email protected]

เวลาเปิด

Mon - Fri: 7AM - 7PM

แผลดูดไขมัน

ไม่ว่าใครก็ตาม จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ทุกคนต่างก็ต้องการมีรูปร่างที่สวยงามกันทั้งนั้น แต่บางคนมีไขมันสะสมเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายหรือการควบคุมอาหารก็ไม่ทำให้สัดส่วนที่ต้องการลดลง หรือไม่สามารถกำจัดไขมันส่วนเกินออกได้ ซึ่งปัจจุบันมีการมีทางเลือกในการกำจัดไขมันส่วนเกินได้หลายวิธี โดยการดูดไขมันมีความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากเห็นผลได้ชัดเจน และ รวดเร็ว เราจะมาดูกันว่า การดูดไขมันมีวิธีและขั้นตอนการทำอย่างไร และหยังทำแผลดูดไขมันเหนียงจะเป็นแผลเป็นหรือไม่ เราดูรายละเอียดพร้อม ๆ กันเลย 

การดูดไขมันคือ

การดูดไขมัน คือการปรับรูปทรงของร่างกายให้ดูสวยงาม โดยการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อดูดไขมันส่วนเกินโดยเฉพาะ โดยเครื่องดูดไขมัน จะส่งพลังงาน ผ่านท่อดูดไขมันเข้าไปทำให้เซลล์ไขมันสลายตัวออกจากกัน จากนั้นแพทย์จะทำการดูดไขมันออกมากำจัดทิ้ง โดยส่วนมากจะนิยมดูดบริเวณ สะโพก ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง ก้น เหนียง

การดูดไขมันสามารถดูดได้โดยมีวิธีไหนบ้าง

การดูดไขมันแบบ Vaser การดูดไขมันโดยการปล่อยพลังงานคลื่นเสียงหรือ Ultrasound ลงในบริเวณชั้นผิวเพื่อให้เกิดการสลายตัวของเซลล์ไขมันจนกลายเป็นของเหลวจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการดูดไขมันต่อไป

การดูดไขมันแบบ Body tite คือการดูดไขมันโดยการปล่อยคลื่น RF (Radio Frequency) คลื่นวิทยุความถี่คุณภาพสูงและเปลี่ยน คลื่นนี้เป็นความร้อนเพื่อทำลายเซลล์ไขมันให้เป็นน้ำมันที่ชั้นใต้ผิวหนัง จากนั้นจะดูดออกผ่านท่อขนาดเล็ก เป็นวิธีการที่มีเลือดปนน้อยมากและทำให้เกิดแผลเพียงเล็กน้อย

การดูดไขมันแบบ Water Jet วิธีนี้ใช้พลังงานน้ำไปแยกเซลล์ไขมัน เพราะต้องการนำไขมันส่วนที่ได้ไปเติมเต็มให้กับอวัยวะส่วนที่ต้องการไขมัน เช่น การเติมเต็มใต้ตาที่ดูโทรมให้เต็มขึ้น การเติมหน้าผากให้นูนสวย เติมล่องแก้มที่ลึกให้เต็มขึ้น หรือการเติมหน้าอกด้วยไขมันของตัวเอง เป็นต้น   

ขั้นตอนการดูดไขมัน

แพทย์จะทำการมาร์คจุดที่ต้องการดูดไขมันจากนั้นจะใช้ยาฆ่าเชื้อ พร้อมขัดผิวด้วยยาฆ่าเชื้อเพื่อทำความสะอาดก่อนการผ่าตัด

การใส่ยาชาใต้ผิว ยาชานี้จะมีการผสมด้วยน้ำเกลือและสารต่าง ๆ ที่ช่วยในการชาให้นานขึ้น และเลือดออกน้อย

แพทย์จะใส่ท่อขนาดเล็กลงในเนื้อเยื่อไขมัน และใช้อุปกรณ์สุญญากาศดูดไขมันในบริเวณที่ต้องการ ใช้อุปกรณ์ทั้ง Vaser, Bodytite,water jet เพื่อทำการละลายไขมัน

จากนั้นแพทย์จะปิดรอยแผลบริเวณที่ดูดไขมันและให้คนไข้สวมชุดกระชับสัดส่วนเพื่อช่วยลดอาการบวมและทำให้แผลหายได้ง่ายยิ่งขึ้น

การดูแลหลังดูดไขมัน

หลังจากการผ่าตัดจะมีอาการ ปวดแสบปวดร้อน มีอาการบวม และมีรอยเขียวช้ำที่ผิวหนังบริเวณผ่าตัด ควรทานยาแก้ปวด ยาฆ่าเชื้อ ยาลดบวม และประคบเย็น รวมถึงใส่ชุดรัดรูปเพื่อยกกระชับสัดส่วน ประมาณ1 เดือนหลังจากผ่าตัด

หลังจากการผ่าตัดจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ เกิดจากร่างกายเสียน้ำ ระหว่างการดูดไขมัน เพราะฉะนั้นควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร เพื่อทดแทนน้ำในร่างกาย และเป็นการขับยาชาออกผ่านทางปัสสาวะอีกด้วย

ห้ามแผลโดนน้ำประมาณ 3 วันหลังผ่าตัด หรือก่อนตัดไหม หากแผลแห้งดี ไม่มีอาการบวมแดง หรือ ไม่มีอาการติดเชื้อ สามารถอาบน้ำได้ปกติ และควรซับแผลให้แห้ง

หลังจากดูดไขมันสองสัปดาห์ให้เริ่มออกกำลังกายแบบเบา ๆ เพื่อเป็นการเผาผลาญและกระชับสัดส่วนให้สวยงาม หลังจากการผ่าตัด 1 เดือน สามารถออกกำลังกายแบบหนักได้ 

แผลดูดไขมัน สามารถเป็นแผลเป็นได้หรือไม่

การดูดไขมันเป็นการผ่าตัดชนิดหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อมีการผ่าตัด ต้องเกิดแผลเป็นหลงเหลืออยู่จากการทำเป็นเรื่องธรรมดา ส่วนจะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับกระบวนการสมานแผลตามธรรมชาติของแต่ละคน รวมถึงการดูแลรักษาแผลด้วย เพราะฉะนั้นก่อนจะทำการดูดไขมันควรแน่ใจแล้วว่าแพทย์มีความเชี่ยวชาญมากพอ นอกจากนี้ควรศึกษาวิธีการรักษาแผลผ่าตัดเพราะถ้าดูแลรักษาดีก็จะทำให้ไม่ต้องประสบกับปัญหาแผลเป็นนั้นเอง

ต้องบอกก่อนเลยว่าการดูดไขมันไม่ใช่การลดน้ำหนักแต่เป็นการลดสัดส่วนลงเท่านั้น เพราะหลายคนพยายามลดน้ำหนักแต่ส่วนที่ต้องการให้ลดกลับไม่สลายลง นั้นเป็นเพราะว่าเซลล์ไขมันของแต่ละคนจะมีการสะสมในแต่ละตำแหน่งไม่เท่ากัน ยกตัวอย่างหากคุณลดน้ำหนักลงมาได้แต่ก็กลับมาอ้วนในบริเวณเดิมอีก เพราะการที่ผอมลงไม่ได้ทำให้จำนวนเซลล์ไขมันลดลง การผ่าตัดดูดไขมันจึงเป็นวิธีการสลายไขมันบริเวณที่ต้องการได้อย่าง 100 %