หลายคนอาจมีความคิดที่อยากจะทำจมูกเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเองและยังสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง ซึ่งงานบางประเภทจะต้องอาศัยบุคลิกลักษณะภายนอก การทำจมูกจึงเป็นตัวช่วยที่จะเพิ่มให้บุคลิกภาพของผู้ที่ทำดูดีขึ้นและยังเพิ่มโอกาสในหน้าที่การงานอีกด้วย ก่อนที่จะเข้ารับบริการเสริมจมูกนั้นผู้เข้ารับบริการควรที่จะศึกษาถึงรายละเอียดในการทำและสถานบริการที่จะต้องมีความปลอดภัย ก่อนที่จะทำต้องเตรียมตัวอย่างไร หลังทำควรปฏิบัติตัวอย่างไร วันนี้เราขอนำเสนอ ดังนี้
เสริมจมูกมีกี่แบบ
เสริมแบบเปิด (Open Rhinoplasty) หรือที่เรียกว่า “เสริมจมูกแบบโอเพ่น”
วิธีศัลยแพทย์จะทำการเปิดแผลบริเวณใต้ฐานจมูกและกรีดผ่าเป็นแนวดิ่งจนเห็นแกนจมูก แยกผิวหนังออกจากโครงสร้างของจมูก และทำการปรับแต่งโครงสร้างเดิมที่มีปัญหาก่อนการเสริมจมูก
การเสริมจมูกแบบนี้เหมาะกับผู้เข้ารับบริการที่ต้องการแก้ไขจมูก หรือผู้เข้ารับบริการที่มีปัญหาโครงสร้างจมูกเดิม เช่น จมูกคดเบี้ยว มีฮัมพ์ จมูกสั้นเหมือนหมู การเสริมจมูกแบบโอเพ่นสามารถเสริมด้วยซิลิโคน ปรับโครงสร้างจมูก และรองปลายจมูกเพื่อป้องกันการทะลุได้ทั้งหมดในคราวเดียวกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของศัลยแพทย์
เสริมแบบปิด (Closed Endonasal Rhinoplasty)
เป็นการเปิดแผลบริเวณขอบรูจมูกเพื่อสร้างช่องว่างที่สันจมูกใต้เยื่อหุ้มกระดูกจมูกแล้วใส่แท่งซิลิโคนเข้าไปตามรอยแผลผ่าตัดพร้อมกับตกแต่งโครงสร้างภายในจมูกและปลายจมูก แผลเปิดนี้อาจเปิดข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้
การเสริมจมูกแบบนี้จะเหมาะสำหรับ ผู้เข้ารับบริการที่มีปัญหาโครงสร้างจมูกไม่มากนัก เป็นการเสริมด้วยซิลิโคนเพียงอย่างเดียว หรือร่วมกับการเสริมปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังใบหู
วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูกมีแบบใดบ้าง
- กระดูกอ่อน
อย่างแรกเป็นวัสดุจากในร่างกายของเรา ซึ่งเราเรียกวัสดุแบบนี้ว่า Autograft ยกตัวอย่างเช่น กระดูกอ่อนในร่างกายมนุษย์ ส่วนใหญ่จะนำมาใช้กับผู้ที่ต้องการปรับแต่งจมูก ไม่ว่าจะจมูกหัก จมูกแหว่ง หรือได้รับการเกิดอุบัติเหตุบริเวณจมูก เป็นต้น กระดูกอ่อนบริเวณที่นิยมใช้ก็ได้แก่ กระดูกอ่อนบริเวณซี่โครง กระดูกอ่อนของใบหู กระดูกอ่อนในจมูกเราเอง เป็นต้น
- ซิลิโคน
ซิลิโคน เป็นวัสดุที่นิยมใช้ในการเสริมจมูก โดยสิ่งที่ควรให้ความสำคัญก่อนที่จะเลือกซิลิโคน ได้แก่ เกรดของซิลิโคน แหล่งผลิต และรูปแบบของซิลิโคน ซึ่งจะแบ่งย่อย ๆ ออกดังนี้
- ซิลิโคนแบบสำเร็จรูป
ข้อดีของการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนแบบสำเร็จรูป คือ จะได้รูปทรงที่แน่นอน มีโอกาสที่จะเบี้ยว หรือเอียงน้อย แต่แพทย์จะปรับแต่งรูปทรงได้เล็กน้อยเท่านั้น ทำให้อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน
การเลือกรูปทรงจมูกของซิลิโคนแบบสำเร็จรูป รวมไปถึงลักษณะความอ่อน-แข็งของเนื้อซิลิโคนจะขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ ฐานจมูกเดิม และความต้องการของผู้เข้ารับบริการศัลยกรรมจมูก
- ซิลิโคนแบบแท่ง หรือแบบเหลาเอง
ซิลิโคนแบบแท่ง หรือแบบเหลาเอง แพทย์จะต้องนำมาเหลาขึ้นรูปเอง ทำให้สามารถปรับแต่งให้เข้ากับจมูกทุกรูปหน้า แต่ใช้เวลานาน และจะต้องทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ เพราะมีโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้จมูกเบี้ยวได้
ซิลิโคนแบบแท่งยังแบ่งย่อยอีก 4 ชนิด ตามลักษณะความอ่อน-แข็งของซิลิโคน ได้แก่ แข็ง (Hard) แข็งปานกลาง (Medium) นุ่ม (Soft) และนุ่มมาก (Ultra Soft)
ก่อนเข้ารับการเสริมจมูกต้องเตรียมตัวอย่างไร
- งดสูบบุหรี่
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- งดยาแก้ปวด ลดกล้ามเนื้ออักเสบ ก่อนผ่าตัด เช่น ยากลุ่มแอสไพริน (Aspirin) หรือ ไอบิวโพรเฟน (Ibuprofen) เพื่อลดอาการฟกช้ำจากเลือดคั่งหลังผ่าตัด แต่กรณีที่จำเป็นต้องใช้ แนะนำให้ใช้ยาพาราเซตามอลในการบรรเทาอาการปวดเท่านั้น
- ควรงดวิตามิน น้ำมันตับปลา อาหารเสริมต่างๆ ทุกชนิด เนื่องจากอาหารเสริมเหล่านี้ ไม่ว่าจะดีงามในสามโลกไหน ก็เกิดอาการเลือดหยุดไหลช้าหมอไม่รักเพราะผ่าตัดยากแถมหลังผ่าจะเหมือนโดนรุมต่อยมา
- งดของแสลงจำพวกของดอง น้ำอัดลม รวมถึงอาหารทะเล หากสามารถงดได้ล่วงหน้า แนะนำให้งด
หลังทำจมูกต้องปฏิบัติตัวอย่างไร
- รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง เพื่อลดอาการบวมและอาการอักเสบที่อาจจะเกิดขึ้น หากมีประวัติแพ้ยาชนิดใดควรรีบแจ้งแพทย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- หมั่นประคบเย็นในบริเวณข้างแก้มและหน้าผาก วิธีประคบเย็นที่ถูกต้องคือวางเจลเย็นหรือผ้าเย็นบริเวณข้างแก้มทั้ง 2 ข้าง และบริเวณหน้าผาก ซึ่งไม่ควรลงน้ำหนักมือมากเกินไปเนื่องจากจะทำให้เกิดอาการช้ำได้ และห้ามกดทับบริเวณจมูกเพราะอาจทำให้ซีลิโคนไม่เข้าที่หรือผิดรูป
- ใช้สำลีชุบน้ำสะอาด เช็ดทำความสะอาด และงดแต่งหน้าเป็นเวลา 7 วัน หลังการผ่าตัด 7 วันแรกแนะนำให้ใช้สำลีชุบน้ำสะอาด หรือน้ำเกลือเช็ดทำความสะอาด อย่าให้แผลโดนน้ำ เพราะอาจทำให้แผลหายช้า ส่วนคนผิวมันอาจจะใช้คลีนซิ่งสำหรับคนผิวมันเช็ดทำความสะอาดเพื่อลดแบคทีเรียบนใบหน้าร่วมด้วยได้
- ใช้หมอนรองคอ เลี่ยงการนอนราบหรือตะแคง ซึ่งการใช้หมอนรองคอจะช่วยประคองรูปทรงของจมูกไม่ให้บิดเบี้ยวหรือเอียงไปทางใดทางหนึ่ง หากนอนหงายอาจจะทำให้เลือดไหลย้อนไปคั่งบริเวณดวงตาได้ ส่วนการนอนตะแคงอาจทำให้จมูกเสียทรง
- งดของหมักดอง ไข่ไก่ อาหารทะเล และแอลกอฮอล์เป็นเวลาอย่างต่ำ 1 เดือน ทางที่ดีควรเลือกทานอาหารอ่อน ๆ ก่อนประมาณ 2 อาทิตย์ถึง 1 เดือน เพื่อความปลอดภัย
- หลีกเลี่ยงการยกของหนัก หรือการทำให้จมูกได้รับการกระทบกระเทือน เพราะอาจทำให้จมูกผิดรูปได้
- เช็ดทำความสะอาดแผลด้วยคอตตอนบัดหลังตัดไหม โดยมากจะอยู่ที่ประมาณ 2 อาทิตย์หลังจากผ่าตัด วิธีทำความสะอาดหลังการตัดไหมคือ ใช้คอตตอนบัดชุบน้ำเกลือเช็ดทำความสะอาด และไม่ควรเช็ดแรงจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้แผลแห้งช้าลงอีกทั้งยังควรหลีกเลี่ยงการทำให้เกิดน้ำมูกไหล เพราะจะทำให้ติดเชื้อได้ง่าย