ผู้หญิงต้องคู่กับความสวย และความสวยต้องมาก่อนเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งหน้า ทาปากจะต้องออกมาแปะเสมอ และอีกอย่างหนึ่งที่สาว ๆ ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือการสักขอบตา ถือเป็นวิธีเพิ่มมิติ ทำให้ดวงตาดูกลมโต ขอบตาดูคมชัด ถือเป็นการเพิ่มเสน่ห์ เสริมความมั่นใจแก่หลายคนได้ นอกจากนี้สำหรับผู้ที่กรีดอายไลเนอร์เป็นประจำ การสักอินไลน์เนอร์ยังช่วยลดเวลาในการแต่งหน้า และช่วยให้ประหยัดค่าเครื่องสำอางลงไปได้อีกด้วย และวันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับการสักขอบตากัน เผื่อสาว ๆ คนไหนสนใจการสักขอบตาเพื่อเพิ่มความสวยให้กับตัวเอง พร้อมแล้วเราไปดูรายละเอียดจากบทความนี้กันเลย
การสักขอบตาคืออะไร?
การสักขอบตา คือ การเพิ่มความสวยให้กับตัวเอง ซึ่งการสักขอบตานั้นจะใช้เข็มร่วมกับหมึกสีสักสีลงบริเวณโคนขนตา ทั้งขอบตาบนและขอบตาล่าง เพื่อทำให้ขอบตาแลดูมีขอบคมชัด ดวงตาดูกลมโต เหมือนกรีดอายไลน์เนอร์หรือเขียนด้วยดินสอเขียนขอบตาตลอดเวลา นอกจากนี้การสักขอบตายังช่วยแก้ปัญหาสำหรับคนที่ตาดูลอย ดูเหนื่อย ทำให้ตาดูมีมิติมากยิ่งขึ้น และคนที่มีขนตาเบาบาง เมื่อสักขอบตาแล้วจะทำให้ดูเหมือนมีขนตาหนาขึ้น
การสักขอบตามีกี่แบบ?
การสักขอบตาสามารถทำได้ 2 แบบ ได้แก่
- สักขอบตาแบบอินเนอร์ไลเนอร์ (Inner liner) เป็นการสักขอบตาตามแนวเส้นขนตา บริเวณโคนขนตาไปถึงใต้โคนขนตา ทำให้ดวงตาดูสวยคมเป็นธรรมชาติ แทบดูไม่รู้ว่าเป็นการสัก และยังทำให้ดูเหมือนมีขนตาหนาขึ้น
- สักขอบตาแบบอายไลเนอร์ (Eyeliner) เป็นการสักบริเวณเปลือกตา บริเวณโคนขนตาไปจนถึงด้านบน คล้ายกับการเขียนอายไลน์เนอร์ สามารถเลือกลักษณะเส้นลายสักได้ตามความต้องการ เช่น สักแบบมีหาง ตวัดหาง ชั้นใหญ่ เส้นบาง หรือจะสักไล่สีเหมือนแต่งสีตาด้วยอายชาโดว์ก็ได้
ใครที่เหมาะกับการสักขอบตา?
การสักขอบตาเป็นหนึ่งในการสักเสริมความงามที่นิยมกันในปัจจุบัน ผู้ที่เหมาะกับการสักขอบตา ได้แก่
- คนที่เขียนขอบตาไม่ถนัด หรือมีปัญหากับการเขียนขอบตา เช่น สายตาไม่ดี มือสั่น
- คนที่ต้องการประหยัดเวลาในการแต่งหน้า ซึ่งหากสักขอบตาแบบเส้นเล็กมาแล้วอยากให้เส้นหนาขึ้น ก็สามารถเขียนขอบตาทับเพิ่มได้ หรือจะไม่เขียนขอบตาเลยก็มีรอยสักอยู่
- คนที่แพ้มาสคารา ดินสอเขียนขอบตา หรืออายไลเนอร์ เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้แล้วเกิดอาการคันตา น้ำตาไหล เคืองตา
- คนที่มีขนตาบาง ชั้นตาเล็ก ซึ่งอยากให้ดวงตาดูกลมโตขึ้น ขนตาดูหนาขึ้น ดวงตาดูคมขึ้น
เตรียมตัวก่อนสักขอบตาอย่างไร?
แม้จะมีข้อดีหลายอย่าง แต่การสักขอบตาก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อดวงตาอย่างยิ่ง ดังนั้นก่อนเข้ารับการสักจึงควรปรึกษาแพทย์หรือช่างสักผู้เชี่ยวชาญ ถึงวิธีและขั้นตอนอย่างละเอียด โดยควรเตรียมตัวการสักขอบตา ดังนี้
- ควรงดใส่คอนแทคเลนส์ทั้งก่อนและหลังทำการสัก ประมาณ 2 สัปดาห์
- เมื่อถึงวันสักขอบตา ควรมีคนมาเป็นเพื่อนเพื่อพากลับบ้าน
- ควรเตรียมแว่นกันแดดเพื่อใส่หลังการสัก เนื่องจากหลังการสักอาจมีอาการเคืองตาหรือตาบวมเกิดขึ้นได้
- หากมีการผ่าตัดบริเวณดวงตาก่อนการสักขอบตา ควรรอให้แผลผ่าตัดหายดีเป็นปกติเสียก่อน จึงเข้ารับการสักขอบตาได้
ทั้งนี้ ในการสักขอบตาอาจมีการใช้ยาชาเฉพาะที่หรือยานอนหลับ ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลหรือคลินิกที่คุณเลือกรับบริการ หากเคยมีอาการแพ้ยาเหล่านี้ควรแจ้งให้ผู้สักทราบ หรือปรึกษาแพทย์ก่อนสัก
ขั้นตอนการสักขอบตา
การสักขอบตาทั้งแบบอินเนอร์ไลเนอร์และอายไลเนอร์ มีขั้นตอนดังนี้
- แพทย์หรือช่างสักจะทำการออกแบบโครงร่างที่จะสักให้ดู และสอบถามความพึงพอใจ
- แพทย์หรือช่างสักให้ยานอนหลับหรือยาชาเฉพาะที่ แล้วรอประมาณ 10-20 นาที เพื่อให้ยาเริ่มออกฤทธิ์ก่อนทำการสักขอบตา
- เริ่มการสักขอบตา โดยใช้ปลายเข็มขนาดเล็กค่อย ๆ สักสีลงไปบนขอบตา และย้ำที่เดิมประมาณ 2-3 รอบ จนกว่าสีหมึกจะติดสนิท ใช้เวลาในการสักประมาณ 30 นาที
ดูแลตนเองอย่างไรหลังสักขอบตา?
หลังการสักขอบตาอาจมีอาการเคืองตา แสบตา หรือตาบวมเล็กน้อย (ซึ่งพบได้น้อยมาก) แต่อาการเหล่านี้จะดีขึ้นและหายได้เอง โดยสามารถเดินทางกลับบ้านได้หลังการสักเสร็จ และควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์หรือช่างสักอย่างเคร่งคัด
สักขอบตา ราคาเท่าไร?
ค่าใช้จ่ายในการสักขอบตาขึ้นอยู่กับสถานพยาบาล คลินิก หรือสถานที่ให้บริการสักแต่ละที่ โดยทั่วไปราคาสักขอบตาบนและล่าง เริ่มตั้งแต่ 4,000 บาทขึ้นไป