สำหรับผู้ที่มีใบหน้าที่เป็นสิวและเมื่อทำการรักษาแล้วเกิดเป็นหลุมสิวขึ้นมา ซึ่งหลุมสิวนั้นเป็นแผลที่รักษายากมากที่สุด ถ้าเทียบกับปัญหาผิวแบบอื่น ใคร ๆ ก็อยาก รักษาหลุมสิว ให้หายเร็ว ๆ แต่ถ้าจะรักษาให้ได้ผลระยะยาว แบบไม่ทำร้ายผิว หรือเกิดผลข้างเคียงน้อยที่สุด อาจต้องใช้เวลามากกว่า 6 เดือนขึ้นไป ขึ้นอยู่กับความลึก และชนิดของหลุมสิว รักษาหลุมสิวด้วยการทำเลเซอร์หลุมสิวยังไงให้ได้ผล ทุกเรื่องที่ต้องรู้ เพราะต้องให้คอลลาเจนที่หายไปจากการถูกทำร้ายลึกในชั้นผิว ถูกสร้างเซลล์ขึ้นใหม่มาทดแทน การรักษาหลุมสิวเลยต้องมีการกระตุ้น เพื่อเรียกคอลลาเจนให้เนื้อเยื่อกลับขึ้นมา หลุมสิวนั้นจึงดูตื้นขึ้น และผิวกลับมาเรียบเนียนในที่สุด
สาเหตุของการเกิดหลุมสิว
หลายคนอาจมีความสงสัยว่าหลุมสิวเกิดขึ้นได้อย่างไร หลุมสิวเป็นกระบวนการการรักษาตัวเองของร่างกายหลังจากเกิดบาดแผลหรือการอักเสบ โดยส่วนมากถ้าการอักเสบหรือบาดเจ็บเกิดแค่ผิวชั้นบนก็จะไม่ทิ้งรอยแผลที่ยุบตัวให้เห็น แต่ถ้าหากเกิดในชั้นที่ลึกลงยังผิวชั้นใน การรักษาแผลจะสร้างพังผืดที่ดึงรั้งทำให้ผิวหนังยุบลงไป จึงเกิดเป็นหลุมสิวนั่นเอง หากไม่อยากเป็นหลุมสิว ก็ต้องดูแลรักษาสิวอย่างถูกวิธี ถึงแม้ปัจจุบันจะไม่มีวิธีที่ป้องกันการเกิดหลุมสิวได้ 100% แต่อย่างน้อยก็มีวิธีที่ช่วยลดการเกิดหลุมสิวได้ โดยการดูแลตัวเองก่อนสิวอักเสบลุกลาม
ระดับความรุนแรงของหลุมสิวมีแบบใดบ้าง
- Rolling Scar หรือ “หลุมแอ่งกระทะ” หลุมสิวแบบแรกจะเป็นระดับทั่วไป รุนแรงน้อยที่สุด เกิดจากการที่เราเป็นสิวแล้วไปแกะหรือเกามันนั่นเอง
- Box Scar หรือ “หลุมกล่อง” ระดับความรุนแรงปานกลาง เกิดจากสิวอักเสบหรืออีสุกอีใส ขนาดของหลุมสิวประมาณ 3-5 มิลลิเมตร มีลักษณะเหมือนกล่อง ตื้น ๆ ไม่ถึงชั้นรูขุมขน
- Ice Pick Scar หรือ “หลุมจิก” ระดับความรุนแรงมากที่สุด โดยเกิดจากการกดหรือบีบสิวอุดตัน โดยถ้าใครที่ปล่อยให้เกิดหลุมสิวแบบนี้จะรักษายากที่สุด
เลเซอร์หลุมสิวเหมาะกับใคร
- เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นหลุมสิวชนิด Rolling และ Box Scar
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความรวดเร็ว ใช้เวลาในการรักษาไม่นาน
- เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการพักฟื้นเพื่อฟื้นฟูใบหน้า
- เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการความยุ่งยากในขั้นตอนการดูแลตัวเอง
ก่อนไปเลเซอร์หลุมสิวต้องเตรียมตัวอย่างไร
1.เลือกแพทย์ หรือคลินิกเสริมความงามเฉพาะทาง
2.หาข้อมูลการทำเลเซอร์และผลกระทบจากการทำไว้ให้พร้อม
3.เตรียมข้อมูลตัวเองเพื่อแจ้งให้แพทย์ทราบ เช่น ประวัติการทานยา แพ้ยา ผ่าตัด และศัลยกรรมใบหน้า
4.ไม่ควรทายา หรือกรดผลไม้ต่างๆ ก่อนไปรักษา
5.ควรหยุดทายาละลายหัวสิวก่อนทำเลเซอร์
ขั้นตอนการทำเลเซอร์หลุมสิวเป็นอย่างไร?
การเลเซอร์หลุมสิวนั้นใช้เวลารักษาไม่นานนัก ประมาณ 30-45 นาที ขึ้นอยู่กับสภาพผิว โดยระหว่างการยิงเลเซอร์อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อย ซึ่งจะมีขั้นตอนการเลเซอร์หลุมสิวดังนี้
- เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดผิวหน้าบริเวณที่ทำการรักษา และอาจทายาชาเพื่อบรรเทาความเจ็บ
- แพทย์ผิวหนังจะใช้เลเซอร์ยิงไปบริเวณหลุมสิวที่ต้องการรักษา โดยจะปรับระดับเลเซอร์ให้เหมาะสมกับแต่ละคน เพื่อให้ได้ผลการรักษาดีที่สุด ทั้งนี้ ระหว่างการรักษา แพทย์อาจมีการเป่าลมเย็นไปพร้อมกัน เพื่อลดความร้อน บรรเทาอาการเจ็บ
- เมื่อยิงเลเซอร์เสร็จ แพทย์อาจใช้มาร์กชนิดเย็นประคบบริเวณใบหน้า เพื่อลดรอยแดงและบรรเทาอาการเจ็บ
รักษาหลุมสิวด้วย Pico Laser เป็นแบบใด
วิธีนี้จะเป็นการใช้เลเซอร์รักษาหลุมสิวอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่กำลังมาแรง ได้รับการพัฒนาให้ระบบทำงานมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมอีกด้วย โดยเปลี่ยนวิธีทำงานของเลเซอร์ด้วยคลื่นแสงความถี่สูง ปล่อยลำแสงเลเซอร์ในช่วงเวลาสั้น มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวชั้นลึก ช่วยรักษาแผลเป็นจากรอยสิว หลุมสิว กระชับรูขุมขน และให้ผิวกระจ่างใสด้วย ทำให้ขณะยิงเลเซอร์จะรู้สึกระคายเคือง และเจ็บน้อยมาก เห็นผลเร็ว ใช้เวลาในการรักษาน้อยกว่าเครื่องเลเซอร์แบบเดิม ที่สำคัญผลข้างเคียงและระยะเวลาในการพักฟื้นก็น้อยมาก ๆ
ทำเลเซอร์หลุมสิวมีข้อดีอะไรให้เห็นบ้าง
- ช่วยลดเลือนจุดด่างดำบนใบหน้า
- กระชับรูขุมขนให้เล็กลง
- หลุมสิวได้รับการผลัดเซลล์ผิวใหม่ให้ตื้นขึ้น
- ผิวหน้ากลับมาเรียบเนียน กระชับ และกระจ่างใสเป็นธรรมชาติ
เลเซอร์หลุมสิวกับฟิลเลอร์หลุมสิวแบบไหนดีกว่ากัน
หากท่านเป็นคนหนึ่งที่มีรอยหลุมสิวแบบตื้น ๆ การทำเลเซอร์หลุมสิวถือได้ว่าเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าเพราะสามารถจัดการกับผิวเฉพาะจุดได้อย่างรวดเร็วให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าไม่ต้องกลัวว่าผ่านไปหลายเดือนแล้วผิวจะเป็นหลุมอีกครั้ง เพราะเลเซอร์ช่วยจัดการพังผืดใต้ผิวหนังพร้อมกับกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ผิวหน้าจึงสวยเรียบเนียนได้อย่างยาวนาน แต่ในกรณีที่ผิวหน้ามีปัญหาหลุมสิวลึกมาก การเติมฟิลเลอร์จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนกว่า อีกทั้งยังเห็นผลได้ในทันที ไม่ต้องรอเวลานานเหมือนการทำเลเซอร์ แต่หากผ่านไปหลายเดือนสารฟิลเลอร์ก็จะค่อยๆ สลายหายไป ถ้าหากอยากให้ผลการรักษาคงอยู่ได้นาน การรักษาด้วยทั้งเลเซอร์และฉีดฟิลเลอร์ถือเป็นอีกทางที่ช่วยตอบโจทย์การรักษาหลุมสิวได้เป็นอย่างดี