ในปัจจุบันการศัลยกรรมเป็นสิ่งที่สาว ๆ หนุ่ม ๆ ให้ความสนใจกันมากขึ้น เพราะการศัลยกรรมทำให้สาว ๆ หนุ่มมีรูปร่างหน้าตาที่สวยงามขึ้นการศัลยกรรมที่สาว ๆ หนุ่ม ๆ ให้ความสนใจมีมากมายไม่ว่าจะเป็นการเสริมดัง การทำตาสองชั้น หรือการเพิ่มหน้าอก หรือแม้แต่การสักขอบปาก เพื่อเพิ่มสีสันบนริมฝีปากให้ดูสว่างใสน่าจุ๊บ หรือสักปากเพื่อปรับขอบปากให้ได้รูปยิ่งขึ้น ก็เป็นอีกหนึ่งการทำศัลยกรรมที่สาว ๆ นิยมมากในตอนนี้ โดยเฉพาะสาวที่มีริมฝีปากดำคล้ำ แต่การสักปากก็ไม่ได้ทำง่าย ๆ เหมือนการซื้อลิปสติก ต้องศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อนคิดจะทำ ว่าปลอดภัยหรือไม่อย่างไร เพราะหากพลาดแล้ว ริมฝีปากอาจเน่าได้ ดังนั้นวันนี้เราจะพาคุณมาทำความรู้จักกับการสักขอบปากชมพู ว่ามันคืออะไรและต้องเตรียมตัวก่อนทำอย่างไร พร้อมแล้วเราไปดูกันเลย
การสักปากชมพู คืออะไร
การสักปาก คือการสักสีลงบนผิวปาก โดยการสักปากนั้นจะต้องทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะเครื่องมือสักตามแต่ละคลินิกหรือสถานที่นั้น ๆ เลือกใช้ ปัจจุบันมีเฉดสีให้เลือกหลากหลาย ทั้ง สีส้ม สีแดง สีชมพู ไปจนถึงการสักแบบไล่เฉด เหมือนกำลังทาทินต์หรือลิปจิ้มจุ่มยังไงอย่างนั้น ส่วนค่าใช้จ่ายนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละที่ โดยเริ่มตั้งแต่ที่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นบาท
เตรียมตัวอย่างไรก่อนสักปาก
เมื่อตัดสินใจเลือกสถานที่สักปากได้แล้ว ก็ถึงขั้นตอนการเตรียมตัว ซึ่งขอแนะนำว่าให้งดกินวิตามินหรืออาหาเสริมทุกชนิดก่อนสักปาก 1 สัปดาห์ เพราะวิตามินหรืออาหารเสริมบางตัวอาจทำให้เลือดแข็งตัวช้าได้ นอกจากนี้ควรหมั่นทาลิปมันบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้นล่วงหน้า 2 สัปดาห์ และเมื่อถึงวันสักปากก็ควรกินอาหารให้เรียบร้อย เพราะการสักปากใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง และไม่สามารถดื่มน้ำหรือกินอาหารได้ในขณะนั้น
ขั้นตอนการสักปากชมพู
เมื่อสาว ๆ เลือกสีสันที่ต้องการจะสักปากได้แล้ว ก็จะเป็นขั้นตอนของการทายาชาบริเวณริมฝีปาก ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที ยาชาจึงเริ่มออกฤทธิ์ แล้วจึงเริ่มสู่กระบวนการสักปากชมพู เนื่องจากการสักปากใช้เวลาค่อนข้างนาน หากรู้สึกว่ายาชาเริ่มอ่อนฤทธิ์ หรือรู้สึกเจ็บที่ริมฝีปาก ให้แจ้งแพทย์หรือผู้สักทันทีเพื่อฉีดยาชาเพิ่มเติม
สักปากกี่วันหาย
หลังสักปากเสร็จ บางรายอาจรู้สึกตึง ๆ เจ็บที่ริมฝีปาก และมีอาการบวมประมาณ 2-3 ชั่วโมง หรือในบางรายอาจบวมประมาณ 1-2 วัน โดยหลังจากสักปากเสร็จจะได้สีปากคล้ายกับการทาลิปสติกสีที่เราเลือกไปในครั้งแรก จากนั้นในช่วงวันที่ 2 ริมฝีปากก็จะค่อย ๆ ลอกออก ใช้เวลาประมาณ 3-5 วัน ปากจึงจะลอกหมด และได้สีปากจริง ๆ ที่อ่อนลงกว่าสีที่เราสักในตอนแรกเล็กน้อย บางรายสีปากอาจยังไม่สม่ำเสมอ ซึ่งต้องรอให้ริมฝีปากผลัดเซลล์ผิวจนเข้าที่ก่อน ภายในระยะเวลา 2-3 เดือน จึงจะได้สีปากที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
หลังสักปากโดนน้ำได้ไหม
สำหรับสาว ๆ ที่เพิ่งไปสักปากชมพูมา และกำลังกังวลว่าสักปาก แปรงฟันได้ไหม ขอบอกเลยว่าไม่ต้องกลัวว่าริมฝีปากจะสัมผัสน้ำไม่ได้นะคะ เพราะว่ายังสามารถอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน และบ้วนปากได้ตามปกติ เพียงแต่อาจหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาบ้วนปากหรือยาสีฟันที่มีฤทธิ์รุนแรง ไม่อย่างนั้นอาจแสบริมฝีปากได้ โดยหลังจากล้างหน้า บ้วนปากเสร็จแล้ว ให้ใช้กระดาษทิชชู่ซับปากเบา ๆ จนแห้ง
วิธีดูแลตัวเองหลังสักปาก
หากรู้สึกบวมเจ็บที่ริมฝีปากแนะนำให้กินยาแก้อักเสบ ยาแก้ปวด ลดบวม และใช้ผ้าปิดแผลไว้ ทั้งนี้ควรทายารักษาแผลจากการสักปากซึ่งแพทย์จะเป็นผู้จ่ายยาให้ หรือทาวาสลีนเจล ก็จะช่วยให้แผลสักปากหายเร็วขึ้น ทาเป็นประจำจนกว่าแผลที่แห้งจะลอกออกหมด (ระยะเวลา 3-7 วัน) ที่สำคัญห้ามแคะ แกะ เการิมฝีปากเด็ดขาด รวมถึงควรงดกินอาหารที่มีรสจัด ของหมักของดอง และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงที่ปากยังลอกไม่หมด นอกจากนี้ควรดื่มน้ำให้มาก ๆ และหมั่นรักษาความสะอาดด้วยการบ้วนปาก และใช้น้ำเกลือเช็ดริมฝีปาก หลังรับประทานอาหารทุกครั้ง เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
สักขอบปากชมพู อยู่ได้นานแค่ไหน
หลังสักปากชมพูได้สักระยะ แผลที่สักปากจะเริ่มลอก และเริ่มเห็นสีได้ชัดเจนบางส่วนแต่ยังไม่สม่ำเสมอ ควรรอให้แผลลอกหมดก่อน จึงจะเห็นสีปากทั้งหมด ซึ่งสีจะติดประมาณ 30-50% บางรายที่มีริมฝีปากคล้ำมาก อาจต้องทำการสักซ้ำอีกครั้งเพื่อความสมบูรณ์ แต่โดยส่วนมากช่างสักหรือแพทย์จะนัดสักปากซ้ำหลังจากสักไปแล้วประมาณ 3 เดือน ทั้งนี้ระยะเวลาของสีที่สักปาก จะอยู่ได้นานแค่ไหนขึ้นอยู่กับเทคนิคความเชี่ยวชาญ วัสดุเครื่องมือ ราคาต้นทุน และปัจจัยประกอบอื่น ๆ